หลักสูตรที่เปิดสอน ปีการศึกษา 2567
หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต (ภ.บ.)
" ผลิตเภสัชกรที่สามารถบูรณาการศาสตร์ต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ป่วย ประชาชน ชุมชน อุตสาหกรรมยาและนโยบายด้านยาเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง และสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคตด้วย การใฝ่รู้ตลอดชีวิต"
หลักสูตร 6 ปี มีแผนการศึกษา จำนวน 2 แผน เพื่อให้โอกาสแก่ผู้เรียนที่จะเลือกเรียนเพื่อเพิ่มทักษะ ประสบการณ์ และความชำนาญในการปฏิบัติงานด้านวิชาชีพให้มากขึ้นในทางใดทางหนึ่ง ดังนี้
แผน 1 เภสัชกรรมอุตสาหการ (Industrial Pharmacy) เป็นแผนการศึกษาที่มุ่งผลิตบัณฑิตให้มีองค์ความรู้ด้านการวิจัยและพัฒนา ด้านการประกันคุณภาพและการควบคุมคุณภาพ ด้านการผลิต และด้านกฎระเบียบและการขึ้นทะเบียนตำรับยา
แผน 2 บริบาลทางเภสัชกรรม (Pharmaceutical Care) เป็นแผนการศึกษาที่มุ่งผลิตบัณฑิตให้มีองค์ความรู้และทักษะด้านการดูแลผู้ป่วยในกระบวนการใช้ยา ทั้งในผู้ป่วย ประชาชน ระบบยา ชุมชน และสังคม ตลอดจนการคุ้มครองผู้บริโภคด้านยาและสุขภาพ
เปิดรับสมัครนักเรียนที่สำเร็จแผนการศึกษา : วิทย์ศาสตร์ - คณิตศาสตร์
เรียนจบแล้วทำอะไรได้บ้าง?
นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต ทั้ง 2 แผนการศึกษา จะได้รับปริญญาเภสัชศาสตรบัณฑิต และนักศึกษาต้องสอบความรู้ผู้ขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมของสภาเภสัชกรรม เพื่อรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ทั้งนี้ ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถประกอบวิชาชีพทางเภสัชกรรม ดังนี้
เภสัชกรด้านเภสัชกรรมอุตสาหการ (ยาและเวชภัณฑ์ เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร)
- เภสัชกรฝ่ายผลิต
- เภสัชกรฝ่ายควบคุมคุณภาพ
- เภสัชกรฝ่ายประกันคุณภาพ
- เภสัชกรฝ่ายวิจัยและพัฒนา
- เภสัชกรฝ่ายทะเบียน
- เภสัชกรตรวจประเมินคุณภาพ
เภสัชกรด้านบริบาลทางเภสัชกรรม
- เภสัชกรโรงพยาบาล
- เภสัชกรร้านยา
- เภสัชกรประจำสถานพยาบาลระดับปฐมภูมิ
เภสัชกรคุ้มครองผู้บริโภคด้านสาธารณสุข
เภสัชกรการศึกษา
ผู้ประสานงานการวิจัยทางคลินิก
เภสัชกรการตลาด
อื่น ๆ เช่น เภสัชกรงานด้านอาหารและยา เภสัชกรในสังกัดเทศบาล
ค่าเล่าเรียน
ค่าธรรมเนียมการศึกษาหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิตเป็นแบบเหมาจ่าย
ภาคการศึกษาปกติ ภาคการศึกษาละ 30,000 บาท
ภาคฤดูร้อน ภาคการศึกษาละ 15,000 บาท
ค่าธรรมเนียมการศึกษาระบบชั้นปีเฉพาะชั้นปีที่ 6 80,000 บาท
ข้อมูล ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2566
จุดเด่น
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นสถานศึกษาสาขาเภสัชศาสตร์แห่งแรกในภูมิภาค และเป็นแห่งที่สองในประเทศไทย ที่มีความพร้อมและสิ่งสนับสนุนที่ครบครันเพื่อตอบสนองความต้องการของนักศึกษา อีกทั้งยังเป็นสถานศึกษาสาขาเภสัชศาสตร์ที่มีค่าเทอมที่ถูกที่สุดในประเทศไทย แต่ยังคงประสิทธิภาพที่สามารถผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพและสามารถสอบใบประกอบวิชาชีพผ่านเกิน 95% มาเป็นระยะเวลาหลายปี
เรื่องราวของศิษย์เก่า
ศาสตราจารย์พิเศษ เภสัชกรหญิง กฤษณา ไกรสินธุ์ (ศิษย์เก่า รุ่นที่ 7)
" เภสัชกรยิปซี ผู้ได้รางวัลเชิดชูเกียรติระดับโลกในการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ยากไร้ ได้เข้าถึง ยารักษาโรคเอดส์ได้อย่างทั่วถึง "
ผู้ริเริ่มการวิจัยยาต้านเชื้อไวรัสเอดส์ในประเทศไทย จนกระทั่งประสบความสำเร็จในการผลิตยาสามัญชื่อ "ยาเอดส์" เป็นครั้งแรกในโลก เมื่อปี พ.ศ.2538 โดยประสบความสำเร็จในการผลิตยาชนิดแรกคือ "ZIDOVUDINE" (AZT) มีฤทธิ์ในการลดการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก ภายหลังการค้นคว้าวิจัยต่อยากว่า 3 ปี (พ.ศ.2536 - 2538) หลังจากนั้นได้ริเริ่มผลิตยาอีกหลายชนิด โดยเฉพาะยา "GPO-VIR" หรือยาต้านเอดส์สตรีคอกเทลล์ ซึ่งเป็นการรวมตัวยารักษาโรคเอดส์กว่า 3 ชนิดในเม็ดเดียวเป็นครั้งแรกในโลก
และล่าสุดได้รับรางวัล 2022 Global Women's Leadership Awards จากงานประชุมผู้นำสตรีโลก ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม "สุดยอดผู้นำสตรีโลก ปี 2565 Global Summit of Women 2022"
ข้อมูลการรับเข้าศึกษา TCAS
สามารถดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์
สำนักทะเบียนและประมวลผล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถนนสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
E-mail : uraiwan.e@cmu.ac.th และ saowaluk.chai@cmu.ac.th
โทรศัพท์ : 053-944323 , 053-944383
เว็บไซต์ : https://pharmacy.cmu.ac.th/web_2022/